ตามข้อมูลล่าสุด แผงโซลาร์เซลล์ทั่วโลกมีการติดตั้งเพียงพอสำหรับผลิตไฟฟ้าได้ 1 เทราวัตต์ (TW) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้พลังงานหมุนเวียน
ในปี 2564 การติดตั้ง PV สำหรับที่อยู่อาศัย (ส่วนใหญ่เป็น PV บนหลังคา) เติบโตเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากการผลิตพลังงานจาก PV มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและคุ้มต้นทุนมากขึ้น ในขณะเดียวกัน การติดตั้ง PV ในภาคอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน
ในปัจจุบัน ระบบโซลาร์เซลล์ของโลกสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการไฟฟ้าของประเทศต่างๆ ในยุโรปเกือบทั้งหมด แม้ว่าข้อจำกัดในด้านการกระจายและการจัดเก็บจะทำให้ไฟฟ้าไม่เพียงพอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับกระแสหลักก็ตาม
ตามการประมาณการของข้อมูล BloombergNEF ระบุว่ากำลังการผลิตที่ติดตั้ง PV ทั่วโลกเกิน 1TW เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งหมายความว่า “เราสามารถเริ่มใช้ TW เป็นหน่วยวัดกำลังการผลิตที่ติดตั้ง PV ได้อย่างเป็นทางการแล้ว”
ในประเทศอย่างสเปน มีแสงแดดประมาณ 3,000 ชั่วโมงต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 3,000 ทวีคูณชั่วโมง ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประเทศใหญ่ๆ ในยุโรปทั้งหมด (รวมถึงนอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และยูเครน) ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 3,050 ทวีคูณชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ความต้องการไฟฟ้าในสหภาพยุโรปมาจากพลังงานแสงอาทิตย์เพียงประมาณ 3.6% เท่านั้น โดยสหราชอาณาจักรมีความต้องการสูงกว่าเล็กน้อยที่ประมาณ 4.1%
ตามการประมาณการของ BloombergNEF: จากแนวโน้มของตลาดปัจจุบัน ภายในปี 2040 พลังงานแสงอาทิตย์จะมีสัดส่วน 20% ของพลังงานรวมในยุโรป
ตามสถิติอีกฉบับจาก BP Statistical Review of World Energy 2021 ของบริษัท BP ระบุว่าในปี 2020 การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะคิดเป็น 3.1% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดของโลก โดยเมื่อพิจารณาจากกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้น 23% เมื่อปีที่แล้ว คาดว่าในปี 2021 สัดส่วนดังกล่าวจะอยู่ที่ใกล้เคียง 4% การเติบโตของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์นั้นขับเคลื่อนโดยจีน ยุโรป และสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก โดยทั้งสามภูมิภาคนี้มีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งทั่วโลก
เวลาโพสต์ : 25 มี.ค. 2565